การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint)
เนื้อหา
การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon footprint) หรือรอยเท้าคาร์บอน มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวทางการประเมินคาร์บอนฟุตพรินท์ของผลิตภัณฑ์ สำหรับใช้เป็นกลไกในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมด้านสภาวะโลกร้อน ที่เป็นหนึ่งกลุ่มในการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ถูกนำเสนอโดยคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental panel on climate change, IPCC) และทำการพัฒนาวิธีการประมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมของมนุษย์ในระดับชาติ ออกมาในรูปแบบค่าสัมประสิทธิ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission factor) ของทรัพยากรที่ใช้ในกิจกรรมของมนุษย์
4.1 การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์
มีขั้นตอนและรายละเอียดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้(Carbon footprint of products, CFP) โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เรียกว่า “แนวทางการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์” โดยมีการประกาศใช้ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ ประเทศไทยมีการพัฒนามาตรฐานเฉพาะสำหรับการวิเคราะห์คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์
การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ จะดำเนินการตามวิธีการการประเมินผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมตลอดช่วงชีวิตและขั้นตอนการศึกษา ตามกรอบของอนุกรมมาตรฐาน ISO 14040 มีทั้งหมด 4 ขั้นตอน ดังแสดงในรูปที่ 4.1
รูปที่ 4.1 ขั้นตอนการประเมินวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์
4.2 การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร
การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon footprint for organization, CFO) เป็นกระบวนการที่ใช้วัดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมต่าง ๆ ภายในองค์กร ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการทราบถึงปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมา และสามารถวางแผนเพื่อปรับปรุงและลดการปล่อยก๊าซเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีหลักการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร ดังแสดงในรูปที่ 4.2
รูปที่ 4.2 หลักการดำเนินงานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร
4.3 โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย
โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand voluntary emission reduction program, T-VER) เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เพื่อส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทย และส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาดสำหรับผู้ที่ต้องการดำเนินธุรกิจจากคาร์บอนเครดิตที่ลด (Reduction) หรือกักเก็บได้ (Removal) จากการดำเนินโครงการฯ และได้รับการรับรองและบันทึกในระบบทะเบียนของคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) รวมทั้งเป็นโอกาสหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการฯ อย่างสมัครใจ ดังแสดงในรูปที่ 4.3
ไฟล์ทั้งหมด
| รูปปกไฟล์ | ชื่อไฟล์ | ประเภทไฟล์ | ขนาดไฟล์ | วันที่อัพโหลด | Actions |
|---|

